การเลือกเวย์โปรตีน (Whey Protein)
คนที่เริ่มต้นเล่นเวทหรือเข้าฟิตเนสใหม่ๆ คงเคยได้ยินว่านักเพาะกายหรือคนที่อยากได้กล้าม มักจะกินเวย์โปรตีน
บางคนก็เข้าใจเลยเถิดไปเลยว่าเป็นอาหารเสริมมหัศจรรย์ กินเวย์แล้วตื่นมากล้ามจะขึ้นเป็นอาร์โนลทันที
สาวๆบางคนไม่กล้ากินเพราะกลัวกล้ามขึ้น ว่าไปนั่น
ความจริงแล้วเวย์โปรตีน ก็เหมือนโปรตีนจากแหล่งอื่นๆครับ จุดประสงค์หลักคือเป็นสิ่งที่ร่างกายนำไปซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
เช่นเดียวกับที่เรากินไข่ กินอกไก่ กินนม นั่นแล เพียงแต่เวย์โปรตีนจะช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา
จำเป็นต้องกินเวย์โปรตีนหรือไม่?
เวย์โปรตีนเป็นอาหารเสริมชนิดหนึ่ง ขึ้นชื่อว่าอาหาร"เสริม" แล้วมันไม่ใช่สิ่งที่"จำเป็น"อยู่แล้วครับแต่ทีนี้มาดูว่า สำหรับใครบ้างที่ควรกิน
งานวิจัยหลายๆแหล่งชี้ว่า สำหรับคนที่เล่นเวทเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ การบริโภคโปรตีนประมาณ 0.8 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 ปอนด์ ต่อวัน ก็เพียงพอแล้ว
ดังนั้นสมมติว่าเราน้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม (1 กิโลกรัม เท่ากับ 2.2 ปอนด์) เราจะต้องการโปรตีน 70 x 2.2 x 0.8 = 123.2 กรัม ต่อวัน
ถ้าเรามีเวลาว่างสามารถทำอาหารได้เอง และอาหารที่เราทำมีโปรตีนรวมต่อวันเกินกว่าที่เราต้องการแล้ว เวย์โปรตีนก็ไม่จำเป็นแล้วครับ
แต่ถ้าเราเป็นคนที่งานค่อนข้างยุ่ง กินอาหารหลักเต็มที่แล้วได้โปรตีนรวมแค่วันละ 100 กรัม ก็คงไม่ดีต่อการสร้างกล้ามเนื้อเป็นแน่ ตรงนี้เวย์โปรตีนช่วยได้ครับ
การเลือกซื้อเวย์โปรตีน
เวลาที่เราเลือกเวย์โปรตีน สิ่งที่ต้องเน้นคือ ปริมาณโปรตีนครับ (แหงสิ)อีกอย่างคือเลือกยี่ห้อที่เชื่อถือได้หน่อย เพื่อป้องกันโปรตีนห่วยๆที่ทำ Amino Spiking (Amino Spiking คือการผสมอมิโนที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเข้าไป เอาไว้หลอกเครื่องวัด ว่ายี่ห้อนี้มีโปรตีนเยอะ ตัวเลขเยอะจริงแต่ร่างกายเอาไปใช้ไม่ได้)
สำหรับปริมาณโปรตีนนั้น ฉลากข้างกล่องเค้ามีบอกอยู่แล้วชัดเจน
หลักๆที่เราต้องดูคือขนาดของโปรตีน ต่อ ขนาดของ Serving ครับ
สารอาหารอื่นๆก็ดูประกอบให้เหมาะสมกับความต้องการของเรา
ตัวอย่าง
เวย์โปรตีนยี่ห้อ A มีโปรตีน 25 กรัม ต่อ 1 Serving (30 กรัม)เวย์โปรตีนยี่ห้อ B มีโปรตีน 51 กรัม ต่อ 1 Serving (150 กรัม)
ด้านล่างเป็นภาพฉลากคุณค่าทางโภชนาการ 2 ภาพ ของเวย์โปรตีนสองรุ่น
เวย์โปรตีน A |
เวย์โปรตีน B |
ถ้าดูปริมาณโปรตีนอย่างเดียวข้างฉลาก โปรตีน B ก็คงจะมีโปรตีนเยอะกว่าใช่ไหมครับ
แต่พอดูปริมาณที่ต้องกินเพื่อให้ได้โปรตีน 51 กรัม เราต้องกินโปรตีน B ถึง 150 กรัม (เยอะมากกกก)
ในขณะที่เวย์โปรตีน A มีโปรตีน 25 กรัม ต่อ Serving แต่ถ้าเราต้องการโปรตีนสัก 51 กรัม
เราก็กินโปรตีน A แค่ประมาณ 60 กว่ากรัม เองครับ กินน้อยกว่าเกินครึ่ง แต่ได้โปรตีนเท่ากัน
อ้าวงี้โปรตีน B ก็ไม่น่าซื้อเลยสิ
อันนี้ก็แล้วแต่จุดประสงค์ครับ ถ้าคนที่กินบ่อยๆ เห็นฉลากก็คงจะรู้ ว่าโปรตีน B คือ Gainer (เกเนอร์) ครับ
Gainer คือเวย์โปรตีนที่ผสมส่วนผสมอื่นๆ เช่น คาร์บ เพื่อให้มีแคลอรี่ที่สูง เหมาะกับคนที่กำลังเพิ่มน้ำหนัก
แต่ส่วนตัวถ้าอยากเพิ่มน้ำหนักแนะนำกินข้าว หรือพวกขนมปังเยอะๆก็ได้ครับ ส่วนเวย์ก็เลือกเอาแบบโปรตีนเยอะๆดีกว่า
เลือกเวย์แบบไหนดี
ในตลาดปัจจุบันจะมีโปรตีนอยู่ 3 แบบหลักๆ เรียงจากถูกไปแพง ตามนี้ครับ1. Whey Protein Concentrate (เวย์โปรตีนคอนเซนเทรท)
2. Whey Protein Isolate (เวย์โปรตีนไอโซเลท)
3. Whey Protein Hydrolysates (เวย์โปรตีนไฮโดรไลเซทส์)
ซึ่งหลักๆแล้ว สามแบบนี้จะแตกต่างกันในกระบวนการคัดแยก ซึ่งส่งผลต่อเรื่องความบริสุทธิ์ของโปรตีน
แต่ในแง่การใช้งานและประโยชน์หลักๆแล้ว ไม่แตกต่างกันมากครับ เลือกเอาแบบถูกๆไว้ก่อน ยกเว้นมีเงินเหลืออยากลองก็ไม่ว่ากัน
มีข้อยกเว้นคือ หากปกติคุณเป็นคนแพ้น้ำนม เนื่องมาจากแลคโตส/แล็กโทส (Lactose) ในนม โดยจะมีอาการท้องเสีย ท้องอืด
ให้ลองเปลี่ยนไปกิน Whey Isolate ดูครับ เพราะใน Isolate จะมีแลคโตสน้อยกว่าครับ
ตัดจบเท่านี้ครับสำหรับเรื่องเวย์โปรตีน ใครสงสัยหรือมีอะไรจะแชร์เชิญได้ครับ ไว้พบกันโอกาสหน้าครับ
----
No comments:
Post a Comment